วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2559

Review Harddisk SSD

สืบเนื่องจาก Harddisk ตัวเก่า ใกล้จะไปแล้ว  เปิด Photoshop แล้วจอฟ้า  ถึงกับต้องแสกน Harddisk ทุกครั้งที่เจอปัญหานี้ ทำให้ต้องทำใจ หาตัวใหม่  ก็ลอง ๆ เลือกในเว็บดู ก็เห็นว่า SSD 240 GB ราคา ราว ๆ สามพัน พอจะจับต้องได้  (เมื่อก่อน ไม่ถึง 100 GB นี่เป็นหมื่นเลยนะ) เมื่อวานก็เลยรีบกลับ แวะไปที่พันทิพย์เลย  ที่ ๆ คุ้นเคย ไม่รู้จริง ๆ ว่าเด๋วนี้ ไปซื้อคอมที่ไหนกัน แต่โตมากะพันทิพย์เนี่ยแหละ

ก็ไปที่ร้าน หา ๆ ดู 240 GB รุ่นที่ถูกที่สุด  ก็ได้เจ้าตัวนี้มา SSD Sandisk SSD PLUS 240 GB ราคา ก็ 3190 บาท ที่ banana ซึ่งจริงๆ ร้าน Jib ขายถูกกว่านะ แต่ตอนนั้น อยากได้กล่อง External ไว้ใส่ Harddisk ตัวเก่าด้วย ถามที่ Jib พนักงานบอกไม่มี เลยลองไปดู ร้านอื่น พอดีไปถามที่ banana ก็ไม่มีหรอกนะ แต่พนักงานบอกราคา และวิ่งออกไปหาให้เลย ก็เอาวะ บริการดี ซื้อที่นี่ก็ได้ ตอนแรกนึกว่าจะรูดได้หมด แต่กล่องต้องออกเงินสด  เพราะไปหยิบร้านอื่นมา  ก็อดไป เพราะพกติดตัวไปแค่ สามร้อย เลยรูดได้แต่ SSD จริงๆ  การเลือกซื้อ SSD ต้องดูความเร็วในการอ่าน การเขียนด้วยนะ แต่ละรุ่น ไม่เท่ากัน บางรุ่น อ่านเขียนเท่ากัน บางรุ่น เน้นอ่าน  เน้นเขียน แต่รุ่นที่เลือกมา เป็นรุ่นที่ ความเร็วในการอ่านมากกว่าเขียน

กลับมาถึงห้อง ก็จัดแจง ถอด Harddisk เก่าออกก่อนเลย แล้วใส่ เจ้าตัวใหม่ทันที  ปกติ Harddisk Notebook จะมีขนาด 2.5" ซึ่ง SSD ที่ขายทั่วไปตอนนี้ ก็ 2.5" เอามาใส่แทนกันได้ทันทีอยู่แล้ว  การถอดออกมาเปลี่ยนจึงไม่มีปัญหาอะไรเลย ซึ่ง Interface ที่ใช้กันอยู่ตอนนี้ ก็ SATA เหมือน ๆ กัน จะต่างกันก็ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลนั่นแล

หลังจากเปลี่ยนเสร็จ ก็ลงวินโดส์ใหม่  ได้เรื่องเลย  ไข้ขึ้น ปวดหัวตุ๊บ ๆ ก็อดทนจนลงวินโดส์เสร็จ แล้วก็นอน  หลังจากนั้น ตื่นมาเที่ยงคืนกว่า อาการดึขึ้น ก็ลงไดรเวอร์ โปรแกรมต่อ

จากการใช้สักพัก ก็เขียนริวิว ไว้ก่อนละกัน เอาข้อดีก่อนละกันนะ
อย่างแรก มันเบา  เบามาก  เบากว่า Harddisk ตัวเดิมเยอะเลย เบาแบบรู้สึกได้  นั่นหมายถึง มันทำให้ Notebook น้ำหนักลดลงนะ  แม้จะไม่เยอะมากก็เถอะ
อย่างที่สอง เงียบ เงียบมาก เพราะเป็น solid state นั่นเอง  มันถึงมันไม่มีจานหมุนไง ไม่ต้องมีเสียงดัง แกร่ก ๆ แบบ Harrdisk ตัวเก่า ยังดี ที่มีไฟกระพริบ บอกสถานะการทำงาน ไม่งั้นคงไม่รู้ว่าทำอยู่
อย่างที่สาม นี่ความเร็วเลย  เร็วกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัด  คือมันไม่ได้ทำให้ CPU เร็วขึ้นนะ แต่การอ่าน การเขียน นี่เร็วขึ้นแบบรู้สึกได้ ใช้งานโปรแกรม ต่าง ๆ นี่ไหลลื่นขึ้นเยอะ  อย่างกะได้คอมใหม่  เปลี่ยนได้เปลี่ยนเลยแนะนำ

ทีนี้มาดูข้อเสียกันบ้าง
อย่างแรก ก็เรื่องความจุ แม้จะราคาลดลงมามากแล้ว แต่ความจุก็ยังเป็นข้อจำกัดของ SSD อยู่ดี แต่ถ้าเอามาใช้งานทั่วไป ไม่ได้เก็บ หนังเก็บคลิป ความจุที่ 240 GB นี่ก็พอรับได้นะ แต่ถ้าเทียบกับพวกปกติ ที่ราคาถูกกว่า สามารถเก็บได้ถึง ขั้น TB กันแล้ว ก็คงยังเทียบไม่ได้ แต่เอามาลงแค่ OS แล้วต่อ External ก็เลือกรุ่นเล็กกว่า อย่าง 160 GB มาใช้ก็ได้

อย่างที่สอง SSD ก็เหมือนพวก Thumbdrive หรือ USB Drive นั่นแหละ คือบทจะเสีย มันก็เสียไปเลยไง  อย่าง Harddisk แบบเก่า เวลามันจะเสียมันจมีสัญญาเตือนเช่น จานหมุนช้าลง มีเสียงดัง แต่ SSD เนี่ย มันเงียบไง ใช้เสียงบอกอาการไม่ได้ อายุการใช้งานมันคืออัตราการเขียน คือถ้ามีการเขียนบ่อยมาก ๆ  นั่นหมายความว่ามันจะไปเมื่อไหร่ก็ได้ แม้มันจะมีประกันบอกว่ากี่ปีก็เถอะ

ซึ่งปกติ แล้ว การใช้งานทั่วไป  เพียงพอ ที่จะถึงอายุ หรือเกินอายุประกันอยู๋แล้ว  เพียงแต่ เพราะมันเป็น SSD ไง เผื่อใจไว้หน่อยจะดีกว่า ว่าเจ๊งตอนไหนก็ได้ มันเป็นความเสี่ยงที่ต้องแลกมากับความเร็ว ทีนี้ มันจะมีรุ่นถูกกับรุ่นแพง  ต่างกันตรงไหน  ต่างกันอยู๋สองอย่าง คือ ความเร็ว กับอายุการใช้งานครับ  พวกรุ่นโปร แพง ๆนี่ ความเร็วจะสูงมาก  คือตัวถูกยังไวขนาดนี้ ตัวแพงไวจะขนาดไหน และอายุการใช้งานยาวเวอร์  อย่างตัวถูกที่ได้มานี่ ประกัน สามปี  แต่ตัวแพงนี่ประกัน กันห้าปึ - สิบปี คือใช้ยาวได้เลยทีเดียว และแถมพวกรุ่น Top  ๆ ที่มีข้อมูลมาว่า แม้จะเสีย แต่ก็ยังคงสามารถอ่านข้อมูลได้ แต่เขียนไม่ได้

ทีนี้ แก้ปัญหานี้ยังไง  อย่างแรก  ถ้าต้องการเก็บอะไรนานๆ หรือถาวร แนะนำ External Harddisk จำพวกจานหมุนครับ จะอยู่ได้นานหน่อย ทุกวันนี้ เรามี Onedrive, Dropbox, Google Drive ซึ่งทำให้การใช้งานจำพวก SSD ไม่ได้เสี่ยง ถึงขนาดที่ จะสูญเสียทุกอย่างไป  ใครยังไม่เคยลอง นี่แนะนำให้ลองเลย ดีขึ้นเห็น ๆ
App ที่ใช้ตอนนี้
Steam - Dota2
Office 365
Visual Studio Communities 2015
Firefox
Chrome
Opera
Adobe Photoshop
Windows 10 Pro
Skype
Nox Android Emulator

ใช้เนื้อที่ไปประมาณ 80 GB ก็คิดว่ายังเหลือเนื้อที่พอควรนะ ทำงานได้